แถลงการณ์สำนักพระราชวัง เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา ทรงพระประชวร ฉบับที่ 5

 

19 ส.ค. 2568 เวลา 12:39 น.

วันที่ 19 ส.ค.68 แถลงการณ์สำนักพระราชวัง เรื่อง สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชรมหาวัชรราชธิดาทรงพระประชวร ฉบับที่ 5

ตามที่สำนักพระราชวัง มีแถลงการณ์ เรื่องสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงพระประชวรหมดพระสติด้วยพระอาการทางพระหทัย และทรงเข้ารับการรักษาพระองค์ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย มาตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม พุทธศักราช 2565

และแพทย์ผู้ถวายการรักษาได้รายงานว่า ทรงมีพระอาการแทรกซ้อนด้วยการติดเชื้อที่รุนแรงในพระกระแสโลหิต ในวันที่ 9 สิงหาคม พุทธศักราช 2568 ความทราบทั่วกันแล้วนั้น

คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษา ได้รายงานเพิ่มเติมว่า จากที่ทรงมีพระอาการติดเชื้อรุนแรง และคณะแพทย์ได้ถวายการรักษาอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้ยังมีความดันพระโลหิตต่ำอยู่ คณะแพทย์ยังต้องถวายพระโอสถ เพื่อกระตุ้นความดันพระโลหิต ร่วมกับพระโอสถปฏิชีวนะและการใช้อุปกรณ์ทดแทนการทำงานของพระวักกะ (ไต) และช่วยหายพระทัย คณะแพทย์ยังต้องเฝ้าติดตามพระอาการและถวายการรักษาอย่างใกล้ชิดต่อไป

จึงประกาศมาให้ทราบโดยทั่วกัน

จากกรณีชายรายหนึ่ง อายุ 28 ปี เข้าไปในห้องพักผู้ป่วยพิเศษ แล้ววิ่งไปที่ท้ายระเบียงห้องพิเศษ ชั้น 10 ของอาคารโรงพยาบาลยะลา โดยเจ้าหน้าที่หลายภาคส่วน รวมถึงญาติช่วยกันเกลี้ยกล่อมกว่า 2 ชั่วโมง แต่ไม่สำเร็จ ชายดังกล่าวกระโดดลงมาด้านล่างเสียชีวิต ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่าชายดังกล่าวเป็นผู้ป่วยจิตเวช เหตุเกิดคืนวันที่ 4 พฤษภาคมที่ผ่านมานั้น

เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม โรงพยาบาลยะลา ออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต และขอไว้อาลัยอย่างสุดซึ้งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขอความกรุณางดแชร์ภาพ แชร์คลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นของผู้เสียชีวิต เนื่องจากอาจก่อความกระทบกระเทือนทางจิตใจต่อญาติ และผู้เกี่ยวข้อง

ทำไมพระราชาถึงทรงรักและไว้วางพระราชหฤทัยในพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภาเป็นพิเศษ

แม้พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวจะทรงมีพระราชโอรสและพระราชธิดาหลายพระองค์ แต่หนึ่งในพระราชวงศ์ที่ได้รับความรักและความไว้วางพระราชหฤทัยอย่างลึกซึ้ง คือ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา พระธิดาพระองค์โตที่ทรงมีบทบาทสำคัญในหลายภารกิจระดับชาติและนานาชาติ

พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภาทรงมีพระปรีชาสามารถโดดเด่นด้านการศึกษา ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะด้านกฎหมายและสิทธิมนุษยชน ทรงเคยดำรงตำแหน่งในองค์การสหประชาชาติ และทำงานอย่างใกล้ชิดกับประชาชนในหลายพื้นที่ ทรงแสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบ ความเสียสละ และความเข้าใจในปัญหาของสังคมอย่างลึกซึ้ง

คุณสมบัติเหล่านี้เอง ที่ทำให้พระราชาทรงเห็นถึงศักยภาพในการสืบสานพระราชกรณียกิจ และเชื่อมั่นว่าพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภาจะสามารถปฏิบัติหน้าที่เพื่อประเทศชาติได้อย่างมั่นคงและสง่างาม ความรักและความไว้วางใจที่พระราชามีต่อพระธิดาพระองค์นี้ จึงมิใช่เรื่องของสายสัมพันธ์ในฐานะพ่อลูกเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากการเห็นถึงคุณค่าความสามารถที่พระองค์ทรงสั่งสมมาตลอดชีวิตเหตุการณ์นี้ยังเป็นแรงบันดาลใจให้คนไทยหลายคนเห็นถึงบทบาทของเยาวชนสตรีในสังคม และเชื่อมั่นในพลังแห่งการศึกษาและการทำความดีเพื่อผู้อื่น