Tuesday, 15 April 2025

ด่วน มาแล้ว ตรวจคุณสมบัติใหม่ ลงทะเบียน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2568




สำหรับความคืบหน้าการเปิดให้ลงทะเบียน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2568 สำหรับกลุ่มเปราะบาง ผู้มีรายได้น้อย เตรียมความพร้อมลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจนรอบใหม่ เนื่องจากขณะนี้กำลังจะครบ 2 ปี หลังจากรอบล่าสุดที่เปิดลงทะเบียนปลายปี 2565

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถกำหนดวันลงทะเบียนโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐปี 2568 จากเดิมที่คาดว่าจะเปิดให้ลงทะเบียนภายในเดือน มี.ค.นี้

เนื่องจากอยู่ระหว่างการพิจารณาหลักเกณฑ์การใช้ชีวิต วัดความยากจน จากปัจจุบันกำหนดเกณฑ์รายได้ทั้งปีไม่เกิน 100,000 บาท หรือไม่เกินวันละ 274 บาท กระทรวงการคลังกำลังพิจารณาว่าจะเปลี่ยนแปลงเกณฑ์นี้หรือไม่ เพื่อให้การช่วยเหลือมีความเหมาะสมและตรงเป้าหมายมากขึ้น







ใครได้รับสิทธิบ้าง




คนกลุ่มเดิมคือ ผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจน ปัจจุบันจำนวน 14.5 ล้านคน ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ กระทรวงการคลังจะนำรายชื่อไปคัดกรองอัตโนมัติ







คนกลุ่มใหม่คือ คนที่ไม่เคยได้รับสิทธิมาก่อน คาดมี 10 ล้านคน มาจากประชาชนที่เพิ่งอายุครบ 18 ปี คาดว่าจะเปิดให้ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชั่น ทางรัฐ สำหรับผู้ที่ไม่เคยได้รับสิทธิมาก่อน และเข้าเกณฑ์คุณสมบัติ รวมถึงกลุ่มตกหล่นที่ลงทะเบียนในปี 2565 แล้วยังไม่มีการยืนยันตัวตน




คุณสมบัติลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2568







-ลงทะเบียนรายบุคคล และตรวจสอบคุณสมบัติเป็นรายบุคคลและครอบครัว




-ต้องเป็นบุคคลสัญชาติไทย




-อายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป



-มีรายได้คนละไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี ภายในครอบครัวมีรายได้เฉลี่ยไม่เกิน 100,000 บาทต่อคนต่อปี







-ทรัพย์สินทางการเงิน ได้แก่ เงินฝาก พันธบัตร ตราสารหนี้ต่าง ๆ ต้องไม่เกิน 100,000 บาทต่อคน ครอบครัวไม่เกิน 100,000 บาทต่อคนต่อปีเช่นเดียวกัน




-ต้องไม่มีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ หรือที่ดิน เกินจากเกณฑ์ที่กระทรวงการคลังกำหนด




-ไม่มีบัตรเครดิต




-ไม่มีวงเงินกู้บ้านตั้งแต่ 1.5 ล้านบาทขึ้นไป




-วงเงินกู้ซื้อรถตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป




-ต้องไม่เป็นภิกษุ สามเณร ผู้ต้องขัง บุคคลที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ ข้าราชการ พนักงานราชการ ผู้รับบำเหน็จรายเดือน ผู้รับบำนาญ ข้าราชการการเมือง รวมถึง สส.และ สว.




สำหรับรับเงินช่วยเหลือ 1,545 บาท มีอะไรบ้าง




-ค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค 300 บาทต่อคนต่อเดือน




-ค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ 750 บาทต่อคนต่อเดือน




-ส่วนลดค่าก๊าซหุงต้ม 80 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน




-มาตรการบรรเทาภาระค่าน้ำประปา 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน




-มาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้า 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน







รวมเป็นเงิน 1,545 บาท